Loading...
บทความ

แมลงหล่า( rice black bug หรือ malayan black bug )

แมลงหล่า( rice black bug หรือ malayan black bug )

  • แมลงหล่า( rice black bug หรือ malayan black bug )
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Scotinophara coarctata (Fabricius)
  • วงศ์ : Pentatomidae
  • อันดับ : Hemiptera
  • ชื่อสามัญอื่น : เพลี้ยหล่า กือซืงฆูรอ กูฆอ อีบู
  • รายละเอียด
    แมลงหล่า เป็นมวนชนิดหนึ่ง มีลักษณะค่อนข้างกลมคล้ายโล่ ด้านหัวและอกเป็นรูปสามเหลี่ยม ลำตัวมีสีน้ำตาลหรือดำเป็นมันวาว ยาว 7-8 มิลลิเมตร กว้าง 4-5 มิลลิเมตร เพศผู้มีขนาดเล็กกว่าเพศเมีย ชอบอาศัยรวมกลุ่มที่โคนต้นข้าวเหนือระดับน้ำในตอนกลางวัน (ภาพที่ 1) ส่วนกลางคืนจะเคลื่อนย้ายขึ้นบนต้นข้าว เพศเมียวางไข่ประมาณ 200 ฟอง โดยวางไข่เป็นกลุ่ม จำนวน 20-26 ฟองต่อกลุ่ม เรียงเป็นแถวขนานกัน วางไข่ที่ใบข้าวหรือกาบใบบริเวณโคนต้นข้าวใกล้ระดับผิวน้ำ หรือบางครั้งอาจจะวางบนพื้นดิน ไข่มีสีชมพูแกมเขียว ระยะไข่นาน 4-6 วัน ตัวอ่อนมี 6 ระยะ ตัวอ่อนมีสีน้ำตาลและสีเหลืองกับจุดสีดำ (ภาพที่ 2) ระยะตัวอ่อนนาน 20-30 วัน (ภาพที่ 3) ตัวอ่อนมีพฤติกรรมเหมือนตัวเต็มวัย คือ หลบซ่อนอยู่ที่โคนต้นข้าวหรือตามรอยแตกของพื้นดินในตอนกลางวันและหากินในตอนกลางคืน ตัวเต็มวัยมีอายุนานถึง 214 วัน อยู่ข้ามฤดูหนาวหรือฤดูแล้ง โดยพักตัวอยู่ในร่องระแหงดินในที่มีหญ้าขึ้น เมื่อสภาพภูมิอากาศเหมาะสมจะบินเข้าแปลงนา และขยายพันธุ์หลายรุ่น มีการพักตัวตามตอซัง หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ตัวเต็มวัยสามารถอพยพได้ระยะทางไกลๆ และชอบบินมาเล่นแสงไฟ
  • ลักษณะการทำลายและการระบาด
    แมลงหล่าตัวอ่อนและตัวเต็มวัยดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบข้าวบริเวณโคนต้นข้าว ทำให้บริเวณที่ถูกทำลายเป็นสีน้ำตาลแดงหรือเหลือง ขอบใบข้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำคล้ายข้าวเป็นโรคไหม้ (ภาพที่ 4) ตามข้อของลำต้นข้าวเป็นบริเวณที่แมลงหล่าชอบ เพราะเป็นแหล่งที่มีน้ำเลี้ยงมาก การทำลายในระยะข้าวแตกกอทำให้ต้นข้าวที่อยู่กลางๆ กอข้าวมีอาการแคระแกร็น มีสีเหลืองหรือเหลืองแกมน้ำตาล และการแตกกอลดลง ถ้าทำลายหลังระยะข้าวตั้งท้องทำให้รวงข้าวแกร็น ออกรวงไม่สม่ำเสมอและรวงข้าวมีเมล็ดลีบ ต้นข้าวอาจเหี่ยวตายได้ ถ้ามีแมลงจำนวนมากทำให้ต้นข้าวแห้งไหม้ คล้ายกับถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลาย แมลงหล่าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโต แต่มักพบทำลายในช่วงข้าวแตกกอเต็มที่ถึงเก็บเกี่ยว (ภาพที่ 5) แมลงหล่ามักพบระบาดในข้าวนาสวน นาชลประทานพบมากกว่านาน้ำฝน พบในนาหว่านมากกว่านาดำ เนื่องจากความหนาแน่นของต้นข้าวนาหว่านมีมากกว่านาดำ ซึ่งเป็นสภาพที่เหมาะแก่การอยู่อาศัย โดยทั่วไปแมลงหล่าชอบสภาพที่ร่มและเย็น ในฤดูนาปีการระบาดมีมากกว่านาปรัง พบระบาดเป็นครั้งคราวในบางท้องที่ แต่การระบาดแต่ละครั้งมักทำความเสียหายรุนแรง ดังเช่น ดังเช่น อำเภอเมือง อำเภอตากใบ อำเภอระแงะ และกิ่งอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส อำเภอหนองเสือ อำเภอลาดหลุมแก้ว และอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก ไม่สามารถชี้ชัดว่ามาจากสาเหตุใด แต่มีข้อสังเกตว่าพบระบาดในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วม และในข้าวระยะแตกกอเต็มที่จนถึงระยะออกรวง ทำให้ตันข้าวแห้งตาย ผลผลิตเสียหาย คาดว่าแมลงชนิดนี้จะเริ่มมีความสำคัญในข้าวนาสวนมากขึ้น
  • พืชอาศัย
    ข้าวโพด ข้าวป่า แห้วหมู หนวดปลาดุก กกทราย หญ้าไซ หญ้าข้าวนก หญ้านกสีชมพู
  • การป้องกันกำจัด
    1) ใช้แสงไฟฟ้าล่อแมลงและทำลายในช่วงที่มีการระบาด เนื่องจากแมลงหล่าชอบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน
    2) ปลูกข้าวที่มีอายุเก็บเกี่ยวสั้น เพื่อลดการเพิ่มประชากรในนาข้าว
    3) กำจัดวัชพืชที่ขึ้นหนาแน่นในนาข้าว เพื่อให้นาข้าวโปร่ง แสงแดดส่องถึงโคนต้นข้าว ทำให้สภาพนาข้าวไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของแมลงหล่า
    4) หมั่นสำรวจนาข้าวสม่ำเสมอหรือทุกสัปดาห์ ถ้าพบแมลงหล่ามากกว่า 5 ตัวต่อกอหรือกลุ่มข้าว ควรใช้สารป้องกันกำจัด โคลไทอะนิดิน 16% เอสซี หรืออีทิโพรล 10% เอสซี เลือกใช้สารใดสารหนึ่ง พ่นเฉพาะจุดที่มีการระบาด โดยพ่นบริเวณโคนต้นข้าว
    5) ปลูกข้าวโดยวิธีหว่าน อัตราเมล็ดพันธุ์ไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อไร่
    6) ไม่ใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเกินอัตราแนะนำ
    7) เมื่อเกิดการระบาด ไขน้ำเข้าแปลงนาให้ท่วม เพื่อขับไล่แมลง