Loading...
บทความ

แมลงบั่ว( rice gall midge, RGM )

แมลงบั่ว( rice gall midge, RGM )

  • แมลงบั่ว( rice gall midge, RGM )
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Orseolia oryzae (Wood-Mason)
  • วงศ์ : Cecidomyiidae
  • อันดับ : Diptera
  • ชื่อสามัญอื่น : -
  • รายละเอียด
    แมลงบั่ว ตัวเต็มวัยของแมลงบั่ว มีลักษณะคล้ายยุงหรือริ้น ลำตัวยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร หนวดและขามีสีดำ (ภาพที่ 1) เวลากลางวัน ตัวเต็มวัยจะเกาะซ่อนตัวอยู่ใต้ใบข้าวบริเวณกอข้าว และจะบินไปหาที่มีแสงไฟเพื่อผสมพันธุ์ เพศผู้มีลำตัวสีน้ำตาลปนเหลือง ขนาดเล็กกว่าเพศเมีย เพศเมียส่วนท้องมีสีแดงส้ม วางไข่ในตอนกลางคืนใต้ใบข้าวเป็นส่วนใหญ่ โดยวางเป็นฟองเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่ม 3-4 ฟอง เพศเมีย 1 ตัว สามารถวางไข่ได้หลายร้อยฟองในชั่วอายุเพียง 4 วัน ไข่มีลักษณะคล้ายกล้วยหอม สีชมพูอ่อน ยาวประมาณ 0.45 มิลลิเมตร กว้าง 0.09 มิลลิเมตร (ภาพที่ 2) ระยะไข่ประมาณ 3-4 วัน ไข่ต้องการความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ในการฟักออกเป็นตัวหนอน ตัวหนอนคล้ายหนอนแมลงวัน หัวท้ายเรียว หนอนมี 3 ระยะ (ภาพที่ 3) ตัวหนอนที่ฟักจากไข่จะคลานตามบริเวณกาบใบ เพื่อแทรกตัวเข้าไปในกาบใบเข้าไปอาศัยกัดกินที่จุดเจริญ (growing point) ของตายอดหรือตาข้างที่ข้อ ระยะหนอนนาน 11 วัน ขณะที่หนอนอาศัยกัดกินอยู่ภายในตาที่กำลังเจริญเติบโต ต้นข้าวจะสร้างหลอดหุ้มตัวหนอนไว้ ทำให้เกิดเป็นช่องกลวงที่เรียกว่า “หลอดบั่ว หรือ หลอดหอม”หลอดบั่วจะยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ตรงส่วนที่ถูกหนอนแมลงบั่วทำลายมีลักษณะเป็นหลอดยาว มีสีเขียวอ่อน แตกต่างจากหน่อข้าวปกติ ต้นข้าวและกอข้าวที่ถูกทำลายมีอาการแคระแกร็น เตี้ย ลำต้นกลม สีเขียวเข้ม ไม่ออกรวง ดักแด้มีสีชมพูอ่อนและกลายเป็นสีแดงก่อนออกเป็นตัวเต็มวัย (ภาพที่ 4) เมื่อดักแด้ใกล้จะฟักออกเป็นตัวเต็มวัยจะเคลื่อนย้ายมาอยู่ส่วนปลายของหลอดข้าวนั้น และเจาะออกเป็นตัวเต็มวัยที่ปลายหลอด พร้อมทั้งทิ้งคราบดักแด้ไว้ที่รอยเปิดนั้น โดยปกติจะออกเป็นตัวเต็มวัยในเวลากลางคืน ระยะดักแด้นาน 5-7 วัน แมลงบั่วจะพักตัวในระยะดักแด้ในช่วงฤดูแล้ง โดยอาศัยอยู่ที่ส่วนตาของพืชอาศัย ระยะตัวเต็มวัยนาน 3-4 วัน วางไข่ได้ 100-300 ฟอง รวมระยะไข่ถึงตัวเต็มวัยนาน 21-25 วัน ฤดูปลูกหนึ่งๆแมลงบั่วสามารถขยายพันธุ์ได้ 6-7 ชั่วอายุ ชั่วอายุที่ 2, 3 และ 4 จะเป็นชั่วอายุที่สามารถทำความเสียหายให้ข้าวได้มากที่สุด
  • ลักษณะการทำลายและการระบาด
    การแพร่ระบาด แมลงบั่วเป็นแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญในภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดกำแพงเพชร ตาก แพร่ ลำปาง น่าน พะเยา แม่ฮ่องสอน เชียงราย และเชียงใหม่ ระบาดรุนแรงในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดเลย อุบลราชธานี หนองคาย นครพนม และสกลนคร เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการเพิ่มปริมาณของแมลงบั่ว กล่าวคือ มีความชื้นสูง มีพื้นที่เป็นเขา หรือเชิงเขาล้อมรอบ ทั้งนี้เพราะความชื้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการวางไข่ จำนวนไข่ การฟักไข่ การอยู่รอดหลังจากฟักจากไข่ของหนอน และการเข้าทำลายยอดข้าวอ่อน ลักษณะการทำลาย แมลงบั่วจะออกเป็นตัวเต็มวัยเมื่อเริ่มฤดูฝน โดยจะอาศัยและเจริญเติบโตอยู่บนพืชอาศัยพวกข้าวป่าและหญ้าต่างๆ 1-2 ชั่วอายุ จนกระทั่งเริ่มมีการปลูกข้าว ตัวเต็มวัยแมลงบั่วจะเข้าแปลงนาตั้งแต่ระยะกล้า หรือช่วง 25-30 วันหลังปลูก เพื่อวางไข่ หลังจากฟักออกตัวหนอนจะคลานลงสู่ซอกของใบยอดและกาบใบ เพื่อเข้าทำลายยอดที่กำลังเจริญ ทำให้เกิดลักษณะคล้ายหลอดหอม (ภาพที่ 5) หลอดจะปรากฏภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากที่ตัวหนอนเข้าไปที่จุดเจริญของข้าว ต้นข้าวและกอข้าวที่ถูกทำลายจะมีอาการแคระแกร็น เตี้ย ลำต้นกลม มีสีเขียวเข้ม ยอดที่ถูกทำลายไม่สามารถออกรวงได้ ทำให้ผลผลิตข้าวลดลงมาก ระยะข้าวแตกกอจะเป็นระยะที่บั่วเข้าทำลายมาก เมื่อข้าวเกิดช่อดอก (primodia) แล้วจะไม่ถูกแมลงบั่ว ทำลายมักพบระบาดมากในช่วงฤดูฝน ในสภาพที่มีเมฆมากหรือมีฝนตก"
  • พืชอาศัย
    ข้าว ข้าวป่า หญ้าไซ หญ้าปล้องเขียว หญ้าปล้องหิน หญ้าแดง หญ้าโขย่ง หญ้าชันกาด หญ้าตีนติด
  • การป้องกันกำจัด
    1) กำจัดวัชพืชรอบแปลงนา เช่น ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าไซ หญ้าแดง หญ้าชันกาด หญ้านกสีชมพู เป้นต้น ก่อนตกกล้าหรือหว่านข้าวเพื่อทำลายพืชอาศัยของแมลงบั่ว (ภาพที่ 6)
    2) หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวในช่วงที่มีแมลงบั่วมาเล่นแสงไฟจำนวนมาก
    3) ภาคเหนือ ควรปลูกข้าวหรือปักดำช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม หรือปรับวิธีปลูกโดยการปักดำ 2 ครั้ง เพื่อลดความรุนแรงที่เกิดจากการทำลายของแมลงบั่ว หลังปักดำจนถึงข้าวอายุ 45 วัน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ควรปลูกหรือปักดำระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
    4) ไม่ควรปลูกข้าวโดยวิธีหว่านหรือปักดำถี่ (ระยะปักดำ 10x15 และ 15x15 เซนติเมตร) ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีการระบาดของแมลงบั่วเป็นประจำ
    5) ทำลายตัวเต็มวัยที่บินมาเล่นแสงไฟตามบ้าน ช่วงเวลาตั้งแต่ 19.00 – 21.00 น.
    6) ไม่ควรใช้สารป้องกันกำจัดแมลงใดๆ ในการป้องกันกำจัดแมลงบั่ว เนื่องจากไม่คุ้มกับการลงทุน และยังทำลายศัตรูธรรมชาติ เช่น ไรตัวห้ำทำลายไข่แมลงบั่ว และแตนเบียนหนอน Platygasterid , Eupelmid และ Pteromid เป็นต้น